top of page
FAQS
คำถามคำตอบที่พบบ่อยสำหรับบุคคลทั่วไป
เกี่ยวกับการทำงาน
จบไปแล้ว ทำงานที่ไหนได้บ้าง
งานทางด้านธรณีวิทยาหรือเทคโนโลยีมีความหลากหลาย และสามารถแบ่งออกตามประเภทของหน่วยงานได้ดังนี้
หน่วยงานราชการ:
-
กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
-
กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม
-
กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
-
กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กระทรวงอุตสาหกรรม
-
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ:
หน่วยงานเอกชน:
-
สำรวจและผลิตน้ำมัน:
-
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
-
Mitsui Oil Exploration (MOECO)
-
บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
-
- ประเภทให้บริการบริษัทน้ำมัน (Oil field services):
-
ด้านเหมืองแร่:
-
ประเภทที่ปรึกษาทางวิศวกรรม:
-
บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)
-
บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
-
บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด
-
บริษัท วิศวกรรมธรณีและฐานราก จำกัด (Geotechnical & Foundation Engineering, GFE)
-
บริษัท จีเอ็มที คอร์เปอเรชั่น จำกัด
-
บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด
-
บริษัท กรุงเทพ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด
-
บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด
-
-
ประเภทประกอบการด้านงานวิศวกรรม:
-
บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด
-
บริษัท สยามโทเนะ จำกัด
-
บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด (ประเทศลาว)
-
บริษัท เอสเอ็นที คอนซัลแตนท์ จำกัด
-
บริษัท วีอาร์ไพล์ จำกัด
-
บริษัท ซีเอ็มซี ไอทีดี ซองดะ จอยท์เวนเจอร์
-
บริษัท วิศวชาญ 2002 จำกัด
-
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชญากานต์ เอ็นจิเนียริ่ง
-
ฯลฯ
-
หน่วยงานด้านการศึกษาและวิจัย:
-
ภาควิชาเทคโนโลยีธรณี คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น
-
ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
-
ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
-
สาขาวิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี
-
ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
-
สาขาวิชาเทคโนโลยีธรณี สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
-
โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ทั่วประเทศ
-
ฯลฯ
เงินเดือนเริ่มต้นของบัณฑิตจบใหม่ดีมั้ย
สาขาธรณีและวิศวกรรมธรณี ถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน 10 สาขาวิชาเอกที่มีรายได้เฉลี่ยสูงสุดโดยผู้จัดการ online (อ่านรายละเอียด) โดยมีรายได้เฉลี่ย 3,032,124 บาทต่อปี
เงินเดือนสำหรับผู้มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จากภาควิชาเทคโนโลยีธรณี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความแตกต่างขึ้นกับหน่วยงานที่ทำ ซึ่งประมาณการคร่าวๆ ได้ดังนี้
-
บริษัทน้ำมัน ให้เงินเดือนเริ่มต้นที่ประมาณ 40,000 บาท
-
บริษัทประเภท Oil Field Service ให้เงินเดือน เริ่มต้นที่ประมาณ 22,000 บาท บวกกับเบี้ยเลี้ยงสนาม วันละ 700-900 บาท
-
บริษัทเอกชน อาจให้เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,000 บาท (บวกกับเบี้ยเลี้ยงสนามวันละ 500 บาท ในกรณีต้องทำงานภาคสนาม)
-
หน่วยงานราชการ ให้เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 13,000 บาท
น้ำมันในประเทศเหลือไม่มาก จะมีงานบริษัทน้ำมันทำมั้ย
ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยยังคงมีการสำรวจหาแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ยังสำหรวจหาแหล่งใหม่ไม่พบนั้น แหล่งเก่าก็มีน้ำมันลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นโอกาสที่จะได้งานในบริษัทน้ำมันในประเทศไทยจึงมีน้อยลงเมื่อเทียบกับในอดีต อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าไปทำงานกับบริษัทปตท.สผ.หลายคน มีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ เพราะปตท.สผ.มีสัมปทานสำรวจและผลิตน้ำมันในต่างประเทศหลายแห่ง
ลักษณะงานของนักธรณีหรือนักธรณีวิศวกรรมเป็นอย่างไรบ้าง
-
งานด้านสำรวจ ต้องทำงานอยู่ในสนามเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจมีระยะเวลาครั้งละ 15-20 วัน (ขึ้นอยู่กับหน่วยงาน) จากนั้นกลับมาเขียนรายงานที่สำนักงานก่อนที่จะออกไปทำงานในสนามต่อ หรือบางหน่วยงานจะให้ทำงานอยู่ในสนามตลอด
-
งานประเภท Oil Field Service ต้องทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล โดยช่วงที่อยู่บนแท่นขุดเจาะน้ำมันเราจะไม่สามารถกลับบ้านหรือไปไหนได้เลย บริษัทมักจะจัดกะทำงานเป็นระยะเวลา 20-30 วัน และให้กลับไปพักที่บ้านเป็นเวลา 20-30 วัน จากนั้นจึงกลับไปทำงาน สลับกันอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
-
งานบริษัทน้ำมัน เป็นงานที่ทำในสำนักงาน ส่วนใหญ่จะต้องอยู่กับคอมพิวเตอร์แล้วใช้โปรแกรมสำหรับทำการวิเคราะห์ข้อมูล และต้องทำงานร่วมกับทีมงานซึ่งประกอบด้วยบุคลากรจากหลายฝ่าย
-
งานที่ปรึกษา เป็นงานที่หลากหลาย ไม่มีความตายตัว ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ บางโครงการ ที่ปรึกษาจะต้องทำงานในสนามด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วงานที่ต้องทำมักเป็นงานที่ทำในสำนักงานซึ่งต้องอาศัยการวิเคราะห์ประมวลข้อมูล และหลายครั้งต้องใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยในการทำงาน
-
งานเหมือง มีทั้งงานที่ต้องอยู่หน้าเหมือง และงานที่อยู่เฉพาะในส่วนของสำนักงานหรือห้องปฏิบัติการ
-
งานสอนระดับมัธยมศึกษา เป็นงานสอนวิชาด้านวิทยาศาสตร์กายภาพในโรงเรียน
เป็นผู้หญิงจะหางานทำยากมั้ย
ไม่ยากเลยถ้าเรียนได้ดี อย่างไรก็ตาม จะเรียนได้ดีแค่ไหนก็มีงานบางประเภทที่ผู้หญิงไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัย เช่น งานที่ต้องค้างแรมในสนามซึ่งเต็มไปด้วยคนงานและช่างเจาะผู้ชาย หรืองานบริการด้านการขุดเจาะน้ำมัน (Oil field service) ซึ่งต้องไปอยู่บนแท่นขุดเจาะน้ำมันกลางทะเลที่มีแต่คนงานผู้ชาย เป็นต้น
คนที่เหมาะจะมาเรียนและทำงานในสายวิชาชีพนี้ ควรมีคุณลักษณะอย่างไร
อยู่ง่าย กินง่าย ไม่เรื่องมาก ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย เข้ากับคนได้ง่าย ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น ช่างสังเกต ชอบคิดวิเคราะห์ มีสุขภาพดี ร่างกายฟิตสำหรับการใช้แรงงาน ไม่กลัวความสูง ตาไม่บอดสี และสำคัญที่สุดคือ ใจรัก
เ กี่ยวกับการเรียน
เกี่ยวกับการเรียน
ค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตรป.ตรีทั้งหมดเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น (ไม่รวมค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายเพื่อทำกิจกรรมของนักศึกษา) ประมาณ 120,000 บาท (อ้างอิงจาก ประกาศค่าธรรมเนียมการศึกษา ป.ตรี (ฉบับที่ 963/2555) โดยแบ่งเป็น
-
ค่าธรรมเนียมภาคการศึกษาต้นและภาคการศึกษาปลาย ของทั้ง 4 ปี (8 ภาคการศึกษา) จำนวน 96,000 บาท
-
ค่าธรรมเนียมภาคการศึกษาฤดูร้อน ของปี 2 และ ปี 3 (2 ภาคการศึกษา) จำนวน 12,000 บาท
-
ค่าที่พักระหว่างการทัศนศึกษา (excursion) ในปีที่ 2 จำนวน 3,000 บาท
-
ค่าอุปกรณ์เดินสนาม เครื่องเขียน ตำรา และค่าถ่ายเอกสาร ตลอดระยะเวลาเรียน 4 ปี จำนวน 9,000 บาท โดยมีอุปกรณ์ที่สำคัญได้แก่ รองเท้าเดินป่า และกระเป๋าเป้สะพายหลังคุณภาพดี
ที่ภาควิชามีทุนให้นักศึกษามั้ย
สำหรับระดับป.ตรี ภาควิชาไม่มีทุนให้นักศึกษา แต่นักศึกษาของภาควิชาจะได้รับทุนเรียนดีจากหน่วยงานซึ่งมาให้ทุนการศึกษาทุกปี เช่นบริษัท MOECO ซึ่งจะคัดเลือกนักศึกษาระดับชั้นละ 2 คน เพื่อให้ทุนการศึกษาจำนวนปีละ 30,000 บาท ตั้งแต่เรียนปี 2 จนกระทั่งเรียนจบ โดยไม่มีข้อผูกมัด
สำหรับระดับป.โท-เอก ภาควิชามีค่าจ้างสำหรับผู้ช่วยสอน ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษาอาจมีทุนสำหรับผู้ช่วยวิจัยซึ่งนักศึกษาต้องหารือกับที่ปรึกษาของตัวเอง
ธรณีที่มข.เรียนต่างกับที่จุฬาฯหรือเชียงใหม่อย่างไร
ที่จุฬาฯและเชียงใหม่นั้นจะเรียนธรณีวิทยาในรูปแบบของวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ (Pure science) แต่ที่มข.เราจะเน้นการประยุกต์ใช้ศาสตร์ทางด้านธรณีเพื่อการทำงานในทางวิศวกรรมหรือสิ่งแวดล้อม ดังนั้นที่มข.เราจะเรียนวิชาที่ประยุกต์ทางด้านวิศวกรรม (เช่น Engineering geology หรือ Hydrogeology และ Geophysics) ในปริมาณที่เข้มข้นกว่า
การออกสนามระหว่างเรียนมีลักษณะเป็นอย่างไร
ในภาคฤดูร้อนของปีที่ 2 และภาคฤดูร้อนของปีที่ 3 นักศึกษาทุกคนจะต้องออกสนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาบังคับในหลักสูตร ลักษณะของการออกสนามของเราไม่เหมือนกับการไปเข้าค่ายพักแรมและเดินในอุทยานแห่งชาติซึ่งมีความสวยงาม ปลอดภัย และสะดวกสบาย
การออกสนามของเรา นักศึกษาจะต้องไปค้างแรมตามโรงเรียนหรือสถานที่ราชการ เป็นระยะเวลา 25-30 วัน (บางครั้งทั้งหญิงและชายต้องนอนรวมกัน) ระหว่างที่อยู่ในสนาม นักศึกษาจะไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ เราจะต้องซักผ้าเองและทำกับข้าวกินเองทั้งสามมื้อ (โดยมื้อกลางวันเป็นมื้อที่นำไปรับประทานในสนาม) ทุกวันเราจะต้องตื่นตีห้า ทำกับข้าว ทานมื้อเช้า เตรียมมื้อกลางวัน จากนั้นออกเดินทางไปยังจุดศึกษา (บางครั้งก็มีรถของภาคไปส่ง บางครั้งก็ต้องเดินไปเอง) งานในสนามแต่ละวัน จะประกอบด้วยการเดินในป่า ขึ้นและลงเขา (บางครั้งหลายลูก) จนกระทั่งประมาณสี่ถึงห้าโมงเย็นจึงได้กลับมาที่แคมป์ ระยะทางที่ต้องเดินเท้าในแต่ละวันโดยเฉลี่ยประมาณ 15-20 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับว่ามีภูเขาต้องขึ้นหลายลูกหรือไม่) ทางเดินในป่านั้นส่วนใหญ่จะเดินไม่ลำบากนักเนื่องจากเราจะใช้ทางที่ชาวบ้านเดินเป็นประจำเพื่อเก็บของป่า แต่บางครั้งเราก็ต้องใช้มีดถางทางเข้าไปเอง ระหว่างเดิน เราจะต้องมีความสังเกตรอบคอบ คอยเก็บข้อมูลดินและหิน ต้องมีการจดบันทึกข้อมูล วาดภาพ และถ่ายภาพตลอดเส้นทางศึกษา รวมทั้งต้องเก็บตัวอย่างหินกลับมาศึกษาในขั้นรายละเอียด ซึ่งโดยเฉลี่ย เราจะต้องเก็บหินกลับมาคนละประมาณ 20 กิโลกรัมในแต่ละวัน
ระหว่างเดินในสนาม แดดจะร้อนมาก ยุง (ซึ่งไม่กลัวยากันยุง) จะมหาศาล บางครั้งเจอพายุฝน แต่เราก็ต้องทำงานได้ อันตรายที่สามารถจะพบเจอได้หากไม่มีการระวังและเตรียมการป้องกันแก้ไข เช่น ไฟป่า คนลักลอบตัดไม้ งูและสัตว์หรือแมลงมีพิษ สุนัขเฝ้าสวน ซึ่งยังไม่รวมถึงอันตรายจากการเดินและพลัดตกหรือลื่นล้ม นอกจากนี้ เมื่อกลับถึงแคมป์ งานของเราจะยังไม่เสร็จเสียทีเดียว เรายังต้องสรุปข้อมูลที่เก็บได้ในวันนั้นๆ และวางแผนการเดินในวันต่อไป
ทั้งปีสองและปีสามจะต้องออกสนามในลักษณะเดียวกันดังที่อธิบายในข้างต้น สิ่งที่ต่างกันมีเพียงการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น
ดังนั้น นักศึกษาจะต้องมีความอดทน ไม่กลัวแดด ไม่กลัวฝน ไม่กลัวความสูง ไม่กลัวผี (บางครั้งต้องเดินในป่าช้า) ไม่กลัวอันตราย (และรู้จักระวังป้องกันอันตรายทุกรูปแบบ) มีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวที่อาจเป็นอันตรายระหว่างการออกสนาม และช่วยเหลือตัวเองในการกินและการใช้ชีวิตได้ดี
มีคำถามที่ไม่มีคำตอบในนี้
ส่งข้อความมาถามเราเลยค่ะ จะเป็นการช่วยไขข้อข้องใจของตัวท่านเองและน้องๆในอนาคตด้วย และไม่จำเป็นต้ องให้ชื่อที่แท้จริงของตัวเองก็ได้
bottom of page